รีวิว Curtin University

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Curtin University ดีไหม

“Curtin University มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่สุดในเมือง Perth และรัฐ Western Australia ที่ดังระดับโลกด้านวิศวกรรมเหมืองแร่และธรณีวิทยา และทำผลงานได้ดีในกลุ่มวิชาหลัก วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจ เกาะกลุ่มไปกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในอันดับรวมใกล้กัน    Curtin University เป็นมหาวิทยาลัยที่มี shuttle bus บริการฟรีภายในมหาวิทยาลัย      จากการสำรวจของ Uni-review.com พบว่า Curtin เป็นมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งที่มี food truck   ขณะที่ห้องสมุดกลาง TL Robertson ของ Curtin มีพื้นที่สำหรับ Study Area มากที่สุด เมื่อเทียบกับห้องสมุดของมหาวิทยาลัยอื่นในประเทศ   วิทยาเขตหลัก Bentley ของ Curtin อยู่ทางทิศใต้จากใจกลางเมือง เป็นย่านที่เป็นที่ตั้งของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของเมือง”

 

Judgement (มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม)

Curtin University (“Curtin”) เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐ Western Australia มีจำนวนนักศึกษามากเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศ   Curtin มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีชื่อเสียงติดอันดับโลกในด้านวิศวกรรมเหมืองแร่และธรณีวิทยา ขณะที่ด้านวิชาหลักอื่นๆ ทาง Curtin ทำผลงานในสาขายอดนิยมอย่าง วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และบริหารธุรกิจ เกาะกลุ่มกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ในอันดับใกล้เคียงกัน  Curtin มีเงินทุนสนับสนุนการวิจัยจากรัฐบาลกลางสูงมาเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ และสัดส่วนของนักศึกษาวิจัยอันดับที่ 14 ของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็น research university

อย่างไรก็ตาม Curtin เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่โดดเด่นในสาขาวิทยาศาสตร์สายแพทย์ คลินิก และสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มวิชาใหญ่และอยู่ในความต้องการของนักศึกษาที่มองหาสถานที่เรียนต่อเป็นจำนวนมากเช่นกัน  ขณะที่ทางเราให้คะแนนเรื่องความเก่าแก่ของ Curtin น้อยกว่ามหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง University of Western Australia และ Murdoch University

ทั้งนี้เราชอบบรรยากาศใน Curtin ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่สีเขียวของ Curtin ที่เห็นวิวของอาคารสีอิฐน้ำตาลของตึกต่างๆ  ห้องสมุดกลาง TL Robertson ที่มีพื้นที่ study area ใหญ่มากที่สุดเมื่อเทียบกับห้องสมุดของมหาวิทยาลัยอื่นที่เราไปสำรวจมา  Curtin เป็นมหาวิทยาลัยเพียงไม่กี่แห่งที่มี food truck ให้บริการขายอาหารอยู่ภายในมหาวิทยาลัย    การเดินทางไปวิทยาเขตหลัก ถือว่าสะดวกดี รองรับทั้งรถเมล์และรถไฟ (การเดินทางด้วยรถไฟ จะต้องนั่งรถเมล์จากสถานี ซึ่งแต่ละต่อ ใช้เวลาไม่เกิน 12 นาที)  และความพิเศษอีกอย่างของ Curtin ก็คือ Curtin มีนโยบายอุดหนุนค่าเรียนภาษา ใน English Language Bridging (ELB) ของมหาวิทยาลัยฟรี 10 สัปดาห์ สำหรับนักศึกษาที่ได้ conditional offer ทางมหาวิทยาลัย  อีกทั้งค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ Curtin อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของประเทศ

_____________________________________________________________________________

คะแนนรวมเฉลี่ย

การให้คะแนน โดยพิจารณาหัวข้อที่สำคัญ (คะแนนเต็ม 5) ให้น้ำหนักเท่ากันทุกหัวข้อ

  • ชื่อเสียงระดับโลก [2.75/5] – มี ranking โลกอยู่อันดับระหว่าง 262-400 ความเห็นของสถาบันจัดอันดับอย่าง Times และ QS ค่อนข้างจะมองต่างกันพอสมควร โดย QS ให้ ranking ของ Curtin สูงกว่า ranking ที่ Times จัดไว้
  • ชื่อเสียงภายในประเทศ [3/5] – หลายปีที่ผ่านมา ranking ภายในประเทศถูกจัดให้อยู่ระหว่างอันดับที่ 15-21 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เรานำมาวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews และ Perceptual Mapping
  • คะแนนแอดมิดชั่นที่รับ [3/5] – Curtin กำหนดเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรีสูงในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย  สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ในรัฐ Western Australia หากไม่นับ University of Western Australia แล้ว อีกสามมหาวิทยาลัยในรัฐจะกำหนดเกณฑ์ ATAR ไว้ใกล้เคียงกันเลย ทั้ง Curtin University, Murdoch University และ Edith Cowan University ทั้งสามกลุ่ม (มนุษยศาสตร์ ธุรกิจ และวิทยาศาสตร์)
  • งานวิจัย [3/5] – ปีล่าสุด Curtin ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนการทำวิจัยจากรัฐบาลกลางเป็นจำนวน 45.6 ล้านเหรียญออสเตรเลีย สูงเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ รองจากแค่ 8 มหาวิทยาลัย  Group of Eight, Queensland University of Technology, University of Tasmania และ University of Newcastle   ขณะที่มีสัดส่วนนักศึกษาทำวิจัยอยู่ที่ 4.768% สูงเป็นอันดับที่ 14 ของประเทศ
  • ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยนับจากได้รับสถานะ [2/5] – ปี 1986 Curtin ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัย   แม้ว่า Curtin จะมีสถานะของมหาวิทยาลัยเก่าแก่เป็นอันดับที่ 20 แต่ก็ยังถือว่าเก่ากว่าอีกหลายมหาวิทยาลัยในอันดับใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็น RMIT University, Queensland University of Technology และ University of South Australia
  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักใกล้ CBD [3.5/5] –  ที่ตั้งของวิทยาเขตหลักของ Curtin ชื่อ Bentley (ชื่อเดียวกับย่าน) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองมาทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร  จากการไปสำรวจพบว่า สามารถนั่งรถเมล์ต่อเดียวจากย่านใจกลางเมืองไปถึงมหาวิทยาลัยใช้เวลาประมาณ 30 นาที  หรือใช้วิธีนั่งรถไฟประมาณ 10 นาทีจากสถานี Perth Station ในใจกลางเมืองไปลงสถานี Canning Bridge แล้วต่อรถเมล์อีก 12 นาทีไปลงป้ายในมหาวิทยาลัย  ซึ่งหากรวมเวลารอรถไฟและรถเมล์ ก็ถือว่าใช้เวลาพอๆ กัน การเดินทางด้วย public transport ไปวิทยาเขตหลักถือว่าสะดวกมาก เพราะรถไฟและรถเมล์จะถี่มาก
  • ระดับค่าเรียน [3/5] – ระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ Curtin อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ ค่าเรียนถูกกว่ามหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง University of Western Australia มาก  หากเทียบระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ภายในประเทศ จะอยู่ใกล้เคียงกับ University of Newcastle และ University of Wollongong ในรัฐ New South Wales

คะแนนรวมเฉลี่ย [2.89/5]

หมายเหตุ: Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณ) ถูกอธิบายไว้ในตอนท้ายของบทความ

_____________________________________________________________________________

จุดเด่น

  • Curtin เป็นมหาวิทยาลัยที่ดังมากในด้านวิศวกรรมเหมืองแร่ และธรณีวิทยา โดย Mining Engineering School ของ Curtin ติดอันดับโลก ขณะที่ Curtin ทำผลงานด้าน Geology เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ
  • นอกเหนือจากวิศวกรรมเหมืองแร่แล้ว สาขาวิศวกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เคมี โยธา ไฟฟ้า เครื่องกล ของ Curtin ทำผลงานไม่เป็นรองและดีกว่าในบางสาขา เมื่อเทียบกับบางมหาวิทยาลัยใน Group of Eight อย่าง University of Western Australia และ University of Adelaide
  • Curtin ทำผลงานในกลุ่มวิชายอดนิยมอื่น เช่น บริหารธุรกิจ วิทยาศาสตร์ เกาะกลุ่มกับหลายมหาวิทยาลัยนอกกลุ่ม Group of Eight ได้อย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี เช่น RMIT University, ในอันดับภาพรวมที่อยู่ใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็น RMIT University, Deakin University และ University of Wollongong
  • เราชอบห้องสมุดหลักชื่อ TL Robertson ของ Curtin จากการไปสำรวจ เราโหวตให้เป็นห้องสมุดที่มี study area และ group study areas (พื้นที่และจำนวนโต๊ะสำหรับนักศึกษาอ่านหนังสือ ทำกิจกรรมเรียนเป็นกลุ่ม) เยอะที่สุดเมื่อเทียบกับห้องสมุดของมหาวิทยาลัยอื่นที่เราไปสำรวจมา และพื้นที่ study area เป็นลักษณะ open space กว้างใหญ่เต็มไปด้วย study area ในห้องสมุด
  • เราสะดุดตากับ food truck จำนวนมากภายในวิทยาเขตหลัก Bentley ของ Curtin ถือว่าเป็นเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่มี food truck ภายในมหาวิทยาลัย
  • พื้นที่สีเขียวของ Curtin กว้างใหญ่ภายในวิทยาเขตหลัก มองเห็นวิวของตึก 100 (Chancellery),  ตึก 105 (ห้องสมุด) และตึก 200 (John Curtin Gallery) เป็นสีอิฐน้ำตาล ถือเป็นเสน่ห์ของวิทยาเขตหลัก Bentley
  • การเดินทางไปวิทยาเขตหลัก Bentley ถือว่าสะดวกดี เนื่องจากรถเมล์ และรถไฟ ที่เป็น public transport หลัก มีการให้บริการถี่มากในทุกวัน
  • ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ Curtin อยู่ในระดับเฉลี่ยของประเทศ และถูกกว่ามหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง University of Western Australia มาก
  • ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนการทำวิจัยจากรัฐบาลกลางสูงเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศ
  • Curtin เสนอการเรียนคอร์สภาษาใน English Language Bridging (ELB) ของมหาวิทยาลัยฟรี 10 สัปดาห์ สำหรับนักศึกษาที่ได้ conditional offer ทางมหาวิทยาลัย

_____________________________________________________________________________

จุดอื่นๆ ที่ควรทราบ

  • เราให้คะแนนเรื่องความเก่าแก่ของ Curtin เพียงแค่ 2 จากคะแนนเต็ม 5 เนื่องจาก Curtin เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับสถานะมหาวิทยาลัยไม่ได้เก่าแก่เท่ามหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง University of Western Australia และ Murdoch University  โดย Curtin เก่าแก่เป็นอันดับที่ 20 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เรานำมาวิเคราะห์
  • Curtin เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่โดดเด่นด้านสาขาที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สายคลินิก แพทยศาสตร์ และสาขาอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน
  • Curtin เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และมีจำนวนนักศึกษามากเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศ

____________________________________________________________________________

ข้อมูลของมหาวิทยาลัย

Curtin University (ชื่อย่อ Curtin บางคนรู้จักในชื่อจดทะเบียนตามกฎหมาย Curtin University of Technology) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Perth (เพิร์ธ) รัฐ Western Australia (รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย) ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในปี 1986 (พ.ศ. 2529)   เดิมคือ Western Australian Institute of Technology (สถาบันเทคโนโลยีแห่งออสเตรเลียฝั่งตะวันตก) ชื่อของมหาวิทยาลัยถูกตั้งตามชื่อของ John Curtin ผู้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศออสเตรเลียในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

วิทยาเขตหลักชื่อ Bentley (ชื่อเดียวกับย่านที่ตั้ง) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองมาทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร  ทางทีม Uni-review.com ลงไปสำรวจพบว่า การเดินทางจากใจกลางเมืองไปที่มหาวิทยาลัยทำได้สองรูปแบบ คือ นั่งรถเมล์สาย 72 หรือ 960 จาก Town Hall หรือห้าง Murray Street Mall ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะไปถึงวิทยาเขตหลัก อีกวิธีก็คือ ไปขึ้นรถไฟที่สถานีใหญ่สุดใจกลางเมืองชื่อ Perth Station ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไปลงสถานีชื่อ Canning Bridge (ซึ่งเป็นสายเดียวกับที่จะไป Murdoch University) แล้วจากสถานี Canning Bridge ให้นั่งรถเมล์สาย 100, 101 หน้าสถานีรถไฟ อีก 10-12 นาที ไปที่มหาวิทยาลัย Curtin   ตรงข้ามกับวิทยาเขตหลักจะเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของรัฐชื่อ The Western Australian Technology Park (บางคนเรียก Technology Park) และในละแวกเดียวกันจะเป็นที่ตั้งของบริษัททางด้านเทคโนโลยีอยู่เป็นจำนวนมาก

นอกจากวิทยาเขตหลัก Bentley  แล้ว   ยังมีวิทยาเขตย่อยอื่นๆ เช่น วิทยาในใจกลางเมือง Perth สำหรับสาขานิติศาสตร์ และบริหารธุรกิจ  มีวิทยาเขต Kalgoorlie อยู่ในส่วนรอบนอกของรัฐ Western Australia  และเปิดวิทยาเขตต่างประเทศในมาเลเซีย รัฐซาราวัก, ประเทศสิงคโปร์, ดูไบ และเกาะ Mauritius

*จำนวนนักศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัย มีอยู่ประมาณ 50,205 คน มีสัดส่วนของนักเรียนต่างชาติประมาณ 14,723 คน คิดเป็นสัดส่วนนักศึกษาต่างชาติประมาณ 29.3%

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกในกลุ่ม Australian Technology Network หรือเครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีแห่งออสเตรเลีย (ATN) ประกอบไปด้วย Curtin University, Royal Melbourne Institute of Technology, Queensland University of Technology, The University of Technology, Sydney และ University of South Australia)

*ข้อมูลปี 2016

_____________________________________________________________________________

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยต่อปี

– ปริญญาตรี = AUD 33,160          ปริญญาโท = AUD 31,757

 

  • ค่าใช้จ่ายรวมโดยเฉลี่ยตลอดหลักสูตร* (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน**)

– หลักสูตรปริญญาตรี คำนวณที่ 3 ปี = AUD 156,480

– หลักสูตรปริญญาโท คำนวณที่ 1.5 ปี = AUD 76,135

* ค่าใช้จ่ายรวมจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหลักสูตร ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายขอวีซ่า และค่าเรียนภาษา

** ประมาณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ตัวเลขกลางๆ) ไว้ที่ AUD 19,000 ต่อปี

 

_____________________________________________________________________________

คะแนนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  • IELTS

– ปริญญาตรี = 6.5 (บางสาขาต้องการคะแนนสูงกว่า 6.5 เช่น ศึกษาศาสตร์/วิทยาศาสตร์สายสุขภาพ สายแพทย์ เช่น เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ ต้องการ 7)

– ปริญญาโท = 6.5 (บางสาขาต้องการคะแนนสูงกว่า 6.5 เช่น วิทยาศาสตร์สายสุขภาพ สายแพทย์ เช่น เภสัชศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ ต้องการ 7)

  • ทางเลือกกรณีคะแนนไม่ถึง
    • สอบตามเกณฑ์ใน English Language Bridging (ELB) Program ของมหาวิทยาลัย มีระยะเวลาเรียนตั้งแต่ 10 สัปดาห์ ไปจนถึง 17 สัปดาห์ (สำหรับนักศึกษาที่ได้ conditional offer ทางมหาวิทยาลัยมีนโยบายไม่คิดค่าเรียนภาษาใน ELB สำหรับระยะเวลาเรียน 10 สัปดาห์)
    • Curtin มีนโยบายรับผลภาษาอังกฤษจากหลักสูตรภาษาจากมหาวิทยาลัยอื่น เช่น สถาบัน Insearch ที่เป็นสถาบันภาษาของ University of Technology Sydney และสถาบันภาษาเอกชน เช่น หลักสูตร Academic English ของ Navitas English และ หลักสูตร English for Academic Purposes ของ Phoenix Academy

_____________________________________________________________________________

ลิงค์ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย

  • สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัย และค่าเรียนภาษา

          http://english.curtin.edu.au/courses/language_bridging.cfm  

  • ระยะเวลาเรียนแยกตามสาขาวิชา

          https://study.curtin.edu.au/    

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีแยกตามสาขาวิชา

           https://study.curtin.edu.au/ 

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาโทแยกตามสาขาวิชา

           https://study.curtin.edu.au/    

_____________________________________________________________________________

Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณคะแนนรวมเฉลี่ย)

ใช้วิธีทางสถิติเพื่อเรตติ้งและเปรียบเทียบคะแนนใน 7 indicators หลัก ได้แก่ World Ranking, National Ranking, Student Demand, Research, University Prestige, Location และ Program Fee จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่นำมาวิเคราะห์

  1. World Ranking (ชื่อเสียงระดับโลก) – เราวิเคราะห์จากข้อมูลเผยแพร่ประจำปีล่าสุดจากสองสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลก ได้แก่ Times Higher Education และ QS World University Rankings
  2. National Ranking (ชื่อเสียงภายในประเทศ) – เราวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews จาก domestic students ในประเทศออสเตรเลียจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คน จากนั้นนำผลที่ได้ไปทำ Perceptual Mapping เพื่อจัดช่วงอันดับ
  3. Student demand (ความต้องการเข้าเรียน) – เราวิเคราะห์จาก ATAR Score ในปีล่าสุด เพื่อดูเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรี
  4. Research (ด้านการวิจัย) – เราวิเคราะห์จากจำนวนเงินการทำวิจัยที่รัฐบาลออสเตรเลียจัดสรรให้กับแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด และสัดส่วนของนักศึกษาวิจัยทั้งระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ของแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด
  5. University Prestige – เราวิเคราะห์โดยใช้ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์
  6. Location – เราวิเคราะห์จากความใกล้ไกลของ main campus / headquarters campus หรือ วิทยาเขตหลัก ห่างจากบริเวณที่เป็นใจกลางเมืองที่ตั้ง
  7. Program Fee – เราวิเคราะห์โดยคำนวณ average annual course fee หรือ ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปี จากสาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทของแต่ละมหาวิทยาลัย

_____________________________________________________________________________

ช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ                                

หากท่านเห็นว่า รีวิวมหาวิทยาลัยนี้ดีไหม ของ Uni-review.com น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหาข้อมูลศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว  รบกวนช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ ทางเราจะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวมหาวิทยาลัยต่อไป

Facebook: Uni-Review.com มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม

Website: www.uni-review.com

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*