รีวิว University of Melbourne

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

University of Melbourne ดีไหม

“University of Melbourne มหาวิทยาลัยใน Group of Eight ที่ตั้งในเมือง Melbourne  เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศออสเตรเลีย  เป็น Top 50 ของโลก และอันดับ 1-2 ภายในประเทศจากการวิเคราะห์ตัวชี้วัดทั้งหมดของ Uni-Review.com และจากการจัดอันดับของสถาบันจัดอันดับในทุกๆ ปี   วิทยาเขตหลัก Parkville ในย่านทางทิศเหนือที่อยู่ติดกับย่านใจกลางเมือง มีรถ tram ผ่านหน้ามหาวิทยาลัย รวมถึงจุดขึ้นลงรถ tram รอบวิทยาเขตหลัก  เราโหวตความสวยงามของ University of Melbourne เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณตึก Old Arts บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกและทางเดินด้านหลังตึก  สาขาวิชาหลักๆ ที่เปิดสอนที่ University of Melbourne ส่วนใหญ่จะถูกจัดอันดับให้เป็น Top 3 ของประเทศ และมีอีกหลายวิชาที่ถูกจัดให้เป็น Top 50 ของโลก เรียกได้ว่า มีชื่อเสียงแทบจะทุกสาขาที่เปิดสอน”

 

Judgement (มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม)

University of Melbourne เป็นมหาวิทยาลัยที่มี ranking สูงสุด (1-2) ทั้งภายในประเทศโดย methodology ของ Uni-review.com และทำอันดับโลกได้ดีที่สุด (32-41) โดยสถาบันจัดอันดับของทั้ง Times และ QS  ทางเราเรตติ้งคะแนนรวมจากทุกตัวชี้วัดทั้งหมดให้ University of Melbourne สูงที่สุด หรืออาจจะเป็นอันดับสองในบางปีเบียดกันกับ University of Sydney ในกลุ่มมหาวิทยาลัย Group of Eight

เราเรตติ้งคะแนนเต็มให้ University of Melbourne จาก 4 ใน 7 ตัวชี้วัด ได้แก่ อันดับโลก  อันดับภายในประเทศ  ความเก่าแก่ และคะแนนแอดมิชชั่นในการเข้าเรียนระดับปริญญาตรี  เป็นที่ยอมรับกันว่า University of Melbourne ดังแทบจะทุกสาขาวิชาหลัก (แพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, บริหารธุรกิจ, นิติศาสตร์, สังคมศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ และมนุษยศาสตร์)

อย่างไรก็ตาม University of Melbourne ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีสูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และแพงในระดับบนเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยภายใน Group of Eight ด้วยกัน  ผู้สนใจศึกษาต่อต่างประเทศที่มีงบประมาณจำกัด ควรพิจารณาในเรื่องค่าเรียนให้ดี

แต่ทั้งนี้ นอกจากความมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยในระดับโลก อันดับ 1-2 ภายในประเทศ และสาขาวิชาที่เปิดสอนที่ติดอันดับจากสถาบันจัดอันดับแบบไร้ข้อกังขาแล้ว เรายังชอบความเก่าแก่และความสวยงามของมหาวิทยาลัย  รวมถึงความสะดวกในการการเดินทาง ทำเลที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เข้าถึงด้วยรถ tram หลายสาย รอบวิทยาเขตหลัก และความจริงที่ว่าการได้เรียนที่ The University of Melbourne ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุด และการได้รับการยอมรับในระดับโลกของผู้ที่ได้มีโอกาสจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย

_____________________________________________________________________________

คะแนนรวมเฉลี่ย

การให้คะแนน โดยพิจารณาหัวข้อที่สำคัญ (คะแนนเต็ม 5) ให้น้ำหนักเท่ากันทุกหัวข้อ

  • ชื่อเสียงระดับโลก [5/5] – มี ranking โลกอยู่อันดับระหว่าง 32-41 จากการให้ความเห็นของสองสถาบันจัดอันดับผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Times และ QS โดย Times ให้ University of Melbourne เป็นมหาวิทยาจากออสเตรเลียที่มีอันดับโลกสูงที่สุด  ขณะที่ QS จัดอันดับโลกให้ University of Melbourne เป็นรอง Australian National University (ANU)
  • ชื่อเสียงภายในประเทศ [5/5] – ranking ภายในประเทศถูกจัดให้อยู่ระหว่างอันดับที่ 1-2 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เรานำมาวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews และ Perceptual Mapping    เราจัดให้ University of Melbourne เป็นอันดับ 1-2 หรือดีที่สุดในกลุ่มมหาวิทยาลัย Group of Eight เบียดมากับ University of Sydney
  • คะแนนแอดมิดชั่นที่รับ [5/5] – University of Melbourne กำหนดเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรีสูงเป็นอันดับ 1-2 ของประเทศ เบียดมากับ University of New South Wales และสูงเป็นอันดับหนึ่งของรัฐ Victoria
  • งานวิจัย [4.5/5] – ปีล่าสุด University of Melbourne ได้รับการจัดสรรเงินสนับสนุนการทำวิจัยจากรัฐบาลกลางเป็นจำนวน 197 ล้านเหรียญออสเตรเลีย สูงเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศ ขณะที่สัดส่วนนักศึกษาทำวิจัยอยู่ที่ 8.4% สูงเป็นอันดับที่ 5 ของประเทศ
  • ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยนับจากได้รับสถานะ [5/5] – University of Melbourne ก่อตั้งในปี 1853 เก่าแก่เป็นอันดับสองของประเทศ รองจาก University of Sydney
  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักใกล้ CBD [4.5/5] –  วิทยาเขตหลักของ University of Melbourne อยู่ใน suburb ชื่อ Parkville ห่างจากใจกลางเมืองไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร  ย่าน Parkville เป็นย่านน่าอยู่ มีความสงบ ไม่ค่อยมีสถานบันเทิง สะดวกในการเดินทางเพราะเป็นเส้นทางเดินรถ tram ใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาทีไปถึงใจกลางเมืองเมลเบิร์น  และมีจุดขึ้นลงรถ tram รอบมหาวิทยาลัย
  • ระดับค่าเรียน [1/5] – ระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ University of Melbourne สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ สูงในระดับใกล้เคียงกับอีก 3 มหาวิทยาลัย คือ Australian National University (ANU), University of Sydney และ University of New South Wales  นอกจากนี้ University of Melbourne มีระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีสูงกว่าทุกมหาวิทยาลัยที่อยู่ร่วมรัฐ Victoria ไม่ว่าจะเป็น Monash University, La Trobe University, RMIT University, Deakin University, Swinburne University of Technology และ Victoria University  บางหลักสูตรของ University of Melbourne เช่น หลักสูตร MBA มีค่าเรียนสูงมากจนน่าตกใจ

คะแนนรวมเฉลี่ย [4.29/5]

หมายเหตุ: Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณ) ถูกอธิบายไว้ในตอนท้ายของบทความ

_____________________________________________________________________________

จุดเด่น

  • อันดับโลกของ University of Melbourne ดีที่สุดเมื่อเทียบกับมหาวิทยาอื่นของออสเตรเลียจากการจัดของสถาบัน Times ขณะที่เป็นอันดับสอง (รองจาก ANU) เมื่อเทียบกับมหาวิทยาอื่นของออสเตรเลียจากการจัดของสถาบัน QS
  • เราจัดให้ University of Melbourne เป็นอันดับที่ 1-2 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่เรานำมาวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews และ Perceptual Mapping
  • เราจัดให้ University of Melbourne มีคะแนนสูงสุดในคะแนนรวมจาก 7 ตัวชี้วัดของ Uni-Review.com
  • University of Melbourne เป็นอันดับ 1-3 แทบจะทุกสาขาวิชาหลัก (แพทยศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, วิทยาศาสตร์, บริหารธุรกิจ, นิติศาสตร์, สังคมศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ และมนุษยศาสตร์)
  • University of Melbourne เก่าแก่เป็นอันที่สองของประเทศ รองจาก University of Sydney
  • เราโหวตให้ University of Melbourne เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ  บริเวณที่ถือเป็นไฮไลท์ คือ บริเวณตึก Old Arts บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกและทางเดินด้านหลังตึก
  • University of Melbourne ได้รับเงินสนับสนุนการวิจัยจากรัฐบาลกลางของออสเตรเลียสูงสุดในประเทศ เป็นจำนวน 197 ล้านเหรียญสหรัฐ
  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักของ University of Melbourne ในย่าน Parkville เป็น suburb ที่ถัดจากย่านใจกลางเมือง และสามารถเดินทางด้วยรถ tram เพียง 10-15 นาที   วิทยาเขตหลักของ University of Melbourne แวดล้อมไปด้วยสถานีที่เป็นจุดขึ้นลงรถ tram
  • สถาบันภาษา Hawthorn-Melbourne ซึ่งเป็นเพียงสถาบันภาษาเดียวที่ University of Melbourne รับรอง มีหลักสูตรภาษาอังกฤษ เช่น English for Academic Purposes (EAP) ที่สามารถนำผลคะแนนไปยื่นเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ได้ เช่น ที่ Swinburne University of Technology, Deakin University หรือ La Trobe University เป็นต้น

_____________________________________________________________________________

จุดอื่นๆ ที่ควรทราบ

  • เราเรตติ้งให้คะแนนระดับค่าเรียนของ University of Melbourne แค่ 1 จากคะแนนเต็ม 5 เนื่องจาก ระดับค่าเรียนเฉลี่ยต่อปีของ University of Melbourne สูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ  และแพงในระดับบนเมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยภายใน Group of Eight ด้วยกัน
  • ข้อกำหนดเรื่องคะแนนภาษาอังกฤษในการเข้าเรียนที่ University of Melbourne จะไม่ยืดหยุ่นเท่าเกณฑ์การคัดเลือกในหลายมหาวิทยาลัย ยกตัวอย่างบางสาขา เช่น กฎหมาย ที่เปิดสอนที่ Melbourne Law School  สาขาแพทยศาสตร์  ทันตแพทยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สายสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้ผลภาษาอังกฤษ IELTS 7 ขึ้นไปยื่นเท่านั้น ไม่สามารถเข้าแบบทางเลือกด้วยวิธีสอบตามเกณฑ์ในหลักสูตรภาษาอังกฤษของ UMELB (แม้ว่าจะเป็นหลักสูตรที่ตัวมหาวิทยาลัยเองรับรอง แต่ในบางสาขาวิชาก็กำหนดไว้ชัดเจนว่าไม่สามารถใช้วิธีเรียนตามเกณฑ์ของ UMELB มายื่นได้)

____________________________________________________________________________

ข้อมูลของมหาวิทยาลัย

University of Melbourne (ชื่อย่อ UNIMELB หลายคนเรียก Melbourne University) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Melbourne (เมลเบิร์น) รัฐ Victoria (วิคทอเรีย) ก่อตั้งขึ้นในปี 1853 (พ.ศ. 2396) มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความเก่าแก่เป็นอันดับที่สองของประเทศออสเตรเลีย

มีวิทยาเขตหลัก Parkville (ชื่อเดียวกับย่านที่ตั้ง) อยู่ในย่านที่อยู่ถัดจากย่านใจกลางเมืองเมลเบิร์น ไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กิโลเมตร มีสถานีรถรางที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยแค่หัวโค้งถนน นอกจากนี้ที่ Parkville ก็ถือว่าเป็นย่านธุรกิจของเมืองเช่นกัน การเดินทางไปที่ต่างๆ ภายในตัวเมือง ใช้เวลาไม่เกิน 10-15 นาที  และนักศึกษาบางคนเลือกที่จะใช้จักรยานและการเดิน เนื่องจากใช้เวลาไม่นาน  นักศึกษาส่วนใหญ่จะได้มาเรียนที่วิทยาเขตหลัก

นอกจากวิทยาเขตหลัก Parkville แล้ว   University of Melbourne ยังมีวิทยาเขตอื่นๆ เช่น Southbank (จะอยู่ห่างจากใจกลางเมือง มาทางทิศใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร), Burnley (ห่างจากตัวเมืองมาทางตะวันออกประมาณ 8 กิโลเมตร) และวิทยาเขตอื่นๆ ที่อยู่ในเขตชานเมืองรอบนอก

*จำนวนนักศึกษาทั้งหมดของมหาวิทยาลัย มีอยู่ประมาณ 61,938 คน มีสัดส่วนของนักเรียนต่างชาติประมาณ 20,895 คน คิดเป็นสัดส่วน 33.7%

จำนวนนักศึกษาทั้งหมดของ University of Melbourne มากเป็นอันดับที่สอง รองจาก Monash University และใกล้เคียงกับจำนวนนักศึกษาทั้งหมดของ RMIT University

ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเป็นสมาชิกในหลายเครือข่าย รวมถึง Group of Eight (Go8) หรือกลุ่มแปดมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านงานวิจัยของประเทศออสเตรเลีย และเป็นสมาชิกในกลุ่ม Sandstone Universities หรือกลุ่มมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศออสเตรเลีย

*ข้อมูลปี 2016

_____________________________________________________________________________

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยต่อปี

– ปริญญาตรี = AUD 41,248          ปริญญาโท = AUD 41,907

 

  • ค่าใช้จ่ายรวมโดยเฉลี่ยตลอดหลักสูตร* (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน**)

– หลักสูตรปริญญาตรี คำนวณที่ 3 ปี = AUD 180,744

– หลักสูตรปริญญาโท คำนวณที่ 1.5 ปี = AUD 91,360

* ค่าใช้จ่ายรวมจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหลักสูตร ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายขอวีซ่า และค่าเรียนภาษา

** ประมาณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ตัวเลขกลางๆ) ไว้ที่ AUD 19,000 ต่อปี

 

_____________________________________________________________________________

คะแนนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  • IELTS

– ปริญญาตรี = 6.5

– ปริญญาโท = 6.5 – 7 (บางสาขา เช่น MBA, บางสาขาของบริหารธุรกิจ, นิติศาสตร์, วิชาทางสายแพทย์, ศึกษาศาสตร์ ต้องการมีคะแนน IELTS 7 ขึ้นไป)

  • ทางเลือกกรณีคะแนนไม่ถึง
    • สอบตามเกณฑ์ในหลักสูตร The University of Melbourne English Language Bridging Program (UMELBP)  ของสถาบัน Hawthorn-Melbourne ซึ่งเป็นเพียงสถาบันภาษาเดียวที่ University of Melbourne รับรอง  โดยไม่ต้องยื่นคะแนน IELTS อีก (แค่ยื่นครั้งแรก เพื่อเข้าเรียน UMELBP)   UMELBP มีระยะเวลาหลักสูตรระหว่าง 10-20 สัปดาห์ขึ้นกับคะแนนภาษาอังกฤษที่นำมายื่นตอนสมัครและคะแนนภาษาอังกฤษที่กำหนดไว้ในหลักสูตรที่ต้องการ
    • อย่างไรก็ตาม บางสาขาวิชา เช่น กฎหมาย ที่เปิดสอนที่ Melbourne Business School  สาขาแพทยศาสตร์  ทันตแพทยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์สายสุขภาพ ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องใช้ผลภาษาอังกฤษ IELTS 7 ขึ้นไปยื่นเท่านั้น ไม่สามารถเข้าแบบทางเลือกด้วยวิธีสอบตามเกณฑ์ของ UMELBP
    • Foundation Studies ของ Trinity College ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่จะเข้าเรียนระดับปริญญาตรีของ University of Melbourne   สถาบัน Trinity College ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ University of Melbourne
    • สถาบัน Hawthorn-Melbourne มีหลักสูตร English for Academic Purposes (EAP) ที่นำผลสอบตามเกณฑ์ภาษาอังกฤษของที่นี่ไปยื่นเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยอื่นๆ ในเมืองเมลเบิร์นได้ด้วย  แต่คะแนน EAP ไม่สามารถเอามายื่นเข้าเรียนที่ The University of Melbourne ได้  เนื่องจากหากจะเข้า The University of Melbourne ต้องเรียนหลักสุตร UMELBP เท่านั้น

_____________________________________________________________________________

ลิงค์ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย

  • สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัย และค่าเรียนภาษา

http://www.hawthornenglish.edu.au/english-language-courses/umelbp/   

  • ระยะเวลาเรียนแยกตามสาขาวิชา

          https://study.unimelb.edu.au/find/    

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีแยกตามสาขาวิชา

https://study.unimelb.edu.au/find/ 

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาโทแยกตามสาขาวิชา

           https://study.unimelb.edu.au/find/   

_____________________________________________________________________________

Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณคะแนนรวมเฉลี่ย)

ใช้วิธีทางสถิติเพื่อเรตติ้งและเปรียบเทียบคะแนนใน 7 indicators หลัก ได้แก่ World Ranking, National Ranking, Student Demand, Research, University Prestige, Location และ Program Fee จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่นำมาวิเคราะห์

  1. World Ranking (ชื่อเสียงระดับโลก) – เราวิเคราะห์จากข้อมูลเผยแพร่ประจำปีล่าสุดจากสองสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลก ได้แก่ Times Higher Education และ QS World University Rankings
  2. National Ranking (ชื่อเสียงภายในประเทศ) – เราวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews จาก domestic students ในประเทศออสเตรเลียจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คน จากนั้นนำผลที่ได้ไปทำ Perceptual Mapping เพื่อจัดช่วงอันดับ
  3. Student demand (ความต้องการเข้าเรียน) – เราวิเคราะห์จาก ATAR Score ในปีล่าสุด เพื่อดูเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรี
  4. Research (ด้านการวิจัย) – เราวิเคราะห์จากจำนวนเงินการทำวิจัยที่รัฐบาลออสเตรเลียจัดสรรให้กับแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด และสัดส่วนของนักศึกษาวิจัยทั้งระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ของแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด
  5. University Prestige – เราวิเคราะห์โดยใช้ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์
  6. Location – เราวิเคราะห์จากความใกล้ไกลของ main campus / headquarters campus หรือ วิทยาเขตหลัก ห่างจากบริเวณที่เป็นใจกลางเมืองที่ตั้ง
  7. Program Fee – เราวิเคราะห์โดยคำนวณ average annual course fee หรือ ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปี จากสาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทของแต่ละมหาวิทยาลัย

_____________________________________________________________________________

ช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ                                

หากท่านเห็นว่า รีวิวมหาวิทยาลัยนี้ดีไหม ของ Uni-review.com น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหาข้อมูลศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว  รบกวนช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ ทางเราจะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวมหาวิทยาลัยต่อไป

Facebook: Uni-Review.com มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม

Website: www.uni-review.com

 


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*