รีวิว RMIT University

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

RMIT University (RMIT) ดีไหม

“มหาวิทยาลัยใจกลางกรุงเมลเบิร์น TOP 50 ของโลกด้านการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์ และเป็นมหาวิทยาลัยนอกกลุ่ม Group of Eight ที่โดดเด่นทั้งสาขาวิศวกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจ”

 

Judgment (มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม)

RMIT เป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และมีจำนวนนักศึกษามากเป็นอันดับสามในออสเตรเลีย มีชื่อเสียงระดับโลกในการสอนด้านการออกแบบ ศิลปะ และสถาปัตยกรรม จนติด Top 100 ของโลกในหลายปีที่ผ่านมา  สะท้อนให้เห็นได้จากการออกแบบอาคารเรียนต่างๆ ที่ดูทันสมัย แปลกตา ภายในมหาวิทยาลัย  ขณะที่อันดับของ RMIT ภายในประเทศอยู่ในระดับกลางสูง  ที่น่าสนใจก็คือ RMIT เป็นมหาวิทยาลัยนอกกลุ่ม Group of Eight ที่มี ranking ด้านวิศวกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจโดยรวมสูงกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน Group of Eight เหมือนกัน

เรามองว่า RMIT อาจจะไม่เหมาะกับผู้ต้องการบรรยากาศความเป็นมหาวิทยาลัยแบบออสเตรเลีย   RMIT ให้บรรยากาศความเป็นมหาวิทยาลัยค่อนข้างน้อย เนื่องจากที่ตั้งวิทยาเขตหลักอยู่ใจกลางเมือง จึงห่างไกลจากธรรมชาติ และการที่มีจำนวนนักศึกษามากทำให้สิ่งอำนวยความสะดวกภายในมหาวิทยาลัยมีการใช้ที่ค่อนข้างหนาแน่นในบางช่วงเวลา

อย่างไรก็ตาม เรามองว่า RMIT เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับนักศึกษาต่างชาติที่ต้องการเรียนและพักอาศัยอยู่ในเมือง แบบใกล้กับย่านธุรกิจทุกอย่าง  อีกทั้ง RMIT ทำผลงานได้ดีในสาขายอดนิยมของนักศึกษาต่างชาติ อย่างวิศวกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจ ทำให้ RMIT เป็นมหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์นักศึกษาต่างชาติเป็นจำนวนมากในแต่ละปี  นอกจากนี้ การที่ RMIT มีนโยบายการกระจายศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยให้กับตัวแทนในหลายประเทศ ถือเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับเข้าเรียนได้เป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเรียนภาษาที่ออสเตรเลียล่วงหน้า

_________________________________________________________

 คะแนนรวมเฉลี่ย

การให้คะแนน โดยพิจารณาหัวข้อที่สำคัญ (คะแนนเต็ม 5) ให้น้ำหนักเท่ากันทุกหัวข้อ

  • ชื่อเสียงระดับโลก [2.5/5] – มี ranking โลกอยู่อันดับระหว่าง 247-500 (สถาบัน QS จัดอันดับโลกให้ RMIT สูงกว่าอันดับโลกที่ TIMES จัดให้มาก ความเห็นค่อนข้างจะแตกต่างกัน) แต่ RMIT มีสาขาที่ติดอันดับโลกแบบไร้ข้อกังขา เช่น สถาปัตยกรรมศาสตร์ ศิลปะ การออกแบบ
  • ชื่อเสียงภายในประเทศ [3/5] –Ranking ภายในประเทศอยู่ระหว่างอันดับที่ 15-20 จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยที่เรานำมาวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews และ Perceptual Mapping
  • คะแนนแอดมิดชั่นที่รับ [3.5/5] – เกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรีอยู่ในระดับกลางสูง หากเทียบกับมหาวิทยาลัยร่วมเมือง ภาพรวมเป็นอันดับที่ 3 ของเมือง สำหรับมหาวิทยาลัยที่เป็นที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี รองจาก Monash University และ University of Melbourne นอกจากนี้ หากเจาะลงเป็นรายคณะ จะพบว่าสาขาวิศวกรรมศาสตร์ของ RMIT มี student demand ระดับปริญญาตรีสูง
  • งานวิจัย [2.5/5] – งานวิจัยจะโดดเด่นในสาขาวิชาที่มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียง เช่น สถาปัตยกรรม งานออกแบบ รวมถึงวิศวกรรมศาสตร์ ในปีล่าสุด RMIT ได้รับเงินทุนสนับสนุนด้านวิจัยจากรัฐบาลออสเตรเลียในระดับเดียวกับมหาวิทยาลัยอย่าง University of South Australia, La Trobe University และ University of Wollongong
  • ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัยนับจากได้รับสถานะ [1.5/5] – ปี 1992 ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยค่อนข้างใหม่ เพิ่งได้รับสถานะมหาวิทยาลัยเมื่อไม่นาน เมื่อเทียบกับอีกหลายมหาวิทยาลัยในออสเตรเลีย
  • ที่ตั้งวิทยาเขตหลักใกล้ CBD [5/5] – อยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น การเดินทางสะดวกที่สุด ใกล้ทุกสิ่งอย่าง
  • ระดับค่าเรียน [3/5] – ระดับค่าเรียนเฉลี่ยในปีล่าสุดอยู่ในระดับกลาง เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยทั้งหมดในประเทศ และถูกกว่ามหาวิทยาลัยร่วมเมืองอย่าง Monash University และ University of Melbourne อยู่มาก

คะแนนรวมเฉลี่ย [3.00/5]

หมายเหตุ: Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณ) ถูกอธิบายไว้ในตอนท้ายของบทความ

_________________________________________________________

จุดเด่น

  • RMIT มีชื่อเสียงในสาขาการออกแบบ ศิลปะ และสถาปัตยกรรม ติดอันดับ Top 100 ของโลก ในหลายปีที่ผ่านมา
  • หากไม่นับมหาวิทยาลัยใน Group of Eight แล้ว RMIT ถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มี ranking ในสาขายอดนิยมอย่างวิศวกรรมศาสตร์และบริหารธุรกิจสูงกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Group of Eight
  • ในด้านการสอนวิศวกรรมศาสตร์   RMIT มีความโดดเด่นในหลายสาขาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Electrical Engineering, Mechanical Engineering และ Aerospace Engineering สามารถทำผลงานได้ดีเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยใน Group of Eight และทำได้ดีกว่าบางมหาวิทยาลัยใน Group of Eight ด้วย
  • อันดับของมหาวิทยาลัยในระดับประเทศถือว่าอยู่ในระดับกลางสูง เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยทั้งหมดภายในออสเตรเลีย (ดูรายละเอียดจากหัวข้อคะแนนรวมเฉลี่ย ข้างต้น)
  • ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น ใกล้ทุกอย่าง การเดินทางสะดวกที่สุด เราให้ RMIT เป็นมหาวิทยาลัยที่มีทำเลที่ตั้งของวิทยาเขตหลักดีที่สุดในเมืองเมลเบิร์น
  • อาคารเรียนที่มีรูปทรงแปลกตา สวยงาม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น ห้องสมุด มีบันไดเลื่อนภายในอาคาร
  • RMIT ได้กระจายศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยภายใต้ชื่อ English Worldwide – หลักสูตร English for Academic Purposes (EAP) program ออกไปอยู่ตามประเทศต่างๆ ผ่านตัวแทนที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการในประเทศนั้นๆ เช่น จีน, ไทย, เวียดนาม ทำให้นักศึกษาต่างชาติที่ต้องการเข้าเรียน RMIT แต่ติดปัญหาเรื่องคะแนนภาษาอังกฤษ สามารถเรียนและสอบกับศูนย์ภาษาของ RMIT เหล่านี้ได้ โดยไม่ต้องเดินทางมาเรียนภาษาที่ออสเตรเลียล่วงหน้า

____________________________________________________________________

จุดอื่นๆ ที่ควรทราบ

  • แม้ว่านโยบายในการมีศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยชื่อ English Worldwide EAP program อยู่ในประเทศอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับนักศึกษาต่างชาติก่อนเข้า RMIT แต่เรามองว่านโยบายนี้เป็นดาบสองคม เนื่องจากนโยบายนี้อาจส่งผลต่อคุณภาพด้านการใช้ภาษาของนักศึกษาที่เข้ามาเรียนที่ RMIT ในระยะยาวได้เช่นกัน
  • เนื่องจาก RMIT เป็นมหาวิทยาลัยที่มีจำนวนนักศึกษาเป็นสัดส่วนที่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกของวิทยาเขตหลัก ทำให้นักศึกษาที่เข้าไปเรียนอาจประสบปัญหาสิ่งอำนวยความสะดวกมีไม่เพียงพอ หรือการใช้ค่อนข้างหน้าแน่นในบางครั้ง
  • RMIT มีสัดส่วนของนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะจากประเทศแถบเอเชียสูงมาก เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่น
  • สถานที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ห่างไกลจากธรรมชาติ พื้นที่ภายในวิทยาเขตหลักส่วนใหญ่จะมีแต่อาคาร ทำให้ขาดบรรยากาศของความเป็นมหาวิทยาลัย

_________________________________________________________

 ข้อมูลของมหาวิทยาลัย

RMIT University (ชื่อเป็นทางการ คือ “Royal Melbourne Institute of Technology University” มีชื่อย่อ “RMIT”) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Melbourne (เมลเบิร์น)  รัฐ Victoria (วิคทอเรีย) ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยในปี 1992 (พ.ศ. 2535)  เดิมเป็นวิทยาลัยด้านเทคนิคที่ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แหงสหราชอาณาจักร  ก่อนจะมาเปลี่ยนชื่อ ให้สังเกตชื่อจะมีคำว่า “Royal” อยู่ด้วย

มีวิทยาเขตหลักชื่อ Melbourne City อยู่ใจกลางเมืองเมลเบิร์น ใกล้ศูนย์กลางย่านธุรกิจของเมือง ร้านค้า สถานที่ราชการ เรียกได้ว่าใกล้ทุกอย่าง การเดินทางไปไหนมาไหนถือว่าสะดวกที่สุด เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ ร่วมเมือง

นอกจากวิทยาเขตหลัก Melbourne City แล้ว  ยังมีวิทยาเขตอื่นๆ เช่น วิทยาเขตในย่าน Bundoora ขึ้นเหนือไปประมาณ 16 กิโลเมตร ซึ่งเป็น suburb เดียวกับวิทยาเขตหลักของ La Trobe University  อีกวิทยาเขต คือ Brunswick อยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองเช่นกัน แต่จะใกล้กว่า Bundoora ห่างจากเมืองแค่ 4 กิโลเมตร จะเน้นเปิดสอนหลักสูตรวิชาชีพ และวิทยาเขตต่างประเทศที่มหาวิทยาลัยได้เข้าไปบุกตลาดประเทศเวียดนาม ปัจจุบัน RMIT มีวิทยาเขตในเวียดนามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

* จำนวนนักเรียนทั้งหมดของมหาวิทยาลัย (รวมวิทยาเขตนอกประเทศออสเตรเลีย) มีอยู่ประมาณ 61,882 คน มีสัดส่วนของนักเรียนต่างชาติประมาณ 27,899 คน คิดเป็นสัดส่วน 45%  มีจำนวนนักศึกษามากเป็นอันดับสามของประเทศ รองจาก Monash University และ University of Melbourne

ปัจจุบัน RMIT เป็นสมาชิก Australian Technology Network หรือเครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีแห่งออสเตรเลีย (ATN)  และ The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning (ASAIHL) หรือ สมาคมสถาบันการศึกษาชั้นอุดมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

*ข้อมูลปี 2016

_________________________________________________________

ค่าใช้จ่าย

  • ค่าเล่าเรียนโดยเฉลี่ยต่อปี

– ปริญญาตรี = AUD 32,064          ปริญญาโท = AUD 34,286

  • ค่าใช้จ่ายรวมโดยเฉลี่ยตลอดหลักสูตร* (รวมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน**)

– หลักสูตรปริญญาตรี คำนวณที่ 3 ปี = AUD 153,192

– หลักสูตรปริญญาโท คำนวณที่ 1.5 ปี  = AUD 79,928

* ค่าใช้จ่ายรวมจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหลักสูตร ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายขอวีซ่า และค่าเรียนภาษา

** ประมาณค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ตัวเลขกลางๆ) ไว้ที่ AUD19,000 ต่อปี

_________________________________________________________

คะแนนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกำหนด

  • IELTS

– ปริญญาตรี = 6.5

– ปริญญาโท = 6.5

  • ทางเลือกกรณีคะแนนไม่ถึง
    • สอบตามเกณฑ์ในคอร์สเรียนภาษาของมหาวิทยาลัย หลักสูตร English for Academic Purposes (“EAP”) หรือ RMIT English Worldwide ศูนย์ภาษาของ RMIT ในประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม, ไทย, จีน ที่เปิดหลักสูตร EAP เดียวกับที่ RMIT ในออสเตรเลีย โดยที่นักศึกษาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเรียนคอร์ส EAP ที่ RMIT ตั้งแต่แรก
    • มหาวิทยาลัยมีนโยบายรับผลคะแนนจากการเรียนคอร์สภาษาของสถาบันเอกชนอื่นหรือมหาวิทยาลัยอื่น เช่น ศูนย์ภาษา Hawthorn, ศูนย์ภาษาของ Monash University

_________________________________________________________

ลิงค์ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย

  • สถาบันภาษาของมหาวิทยาลัย และค่าเรียนภาษา

http://www.rmit.edu.au/study-with-us/international-students/programs-for-international-students/english-language-programs/    

http://www.rmit.edu.au/study-with-us/international-students/programs-for-international-students/english-language-programs/english-for-academic-purposes/ 

  • ระยะเวลาเรียนแยกตามสาขาวิชา

https://www.international.rmit.edu.au/info/programfees.asp

  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาตรีแยกตามสาขาวิชา https://www.international.rmit.edu.au/info/programfees.asp  
  • ค่าเรียนหลักสูตรปริญญาโทแยกตามสาขาวิชา

https://www.international.rmit.edu.au/info/programfees.asp    

_________________________________________________________

Methodology (ระเบียบวิธีคำนวณคะแนนรวมเฉลี่ย)

ใช้วิธีทางสถิติเพื่อเรตติ้งและเปรียบเทียบคะแนนใน 7 indicators หลัก ได้แก่ World Ranking, National Ranking, Student Demand, Research, University Prestige, Location และ Program Fee จากทั้งหมด 38 มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียที่นำมาวิเคราะห์

  1. World Ranking (ชื่อเสียงระดับโลก) – เราวิเคราะห์จากข้อมูลเผยแพร่ประจำปีล่าสุดจากสองสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลก ได้แก่ Times Higher Education และ QS World University Rankings
  2. National Ranking (ชื่อเสียงภายในประเทศ) – เราวิเคราะห์โดยวิธี Quantitative Interviews จาก domestic students ในประเทศออสเตรเลียจากมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,000 คน จากนั้นนำผลที่ได้ไปทำ Perceptual Mapping เพื่อจัดช่วงอันดับ
  3. Student demand (ความต้องการเข้าเรียน) – เราวิเคราะห์จาก ATAR Score ในปีล่าสุด เพื่อดูเกณฑ์การรับคะแนนแอดมิดชั่นระดับปริญญาตรี
  4. Research (ด้านการวิจัย) – เราวิเคราะห์จากจำนวนเงินการทำวิจัยที่รัฐบาลออสเตรเลียจัดสรรให้กับแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด และสัดส่วนของนักศึกษาวิจัยทั้งระดับปริญญาโท ปริญญาเอก ของแต่ละมหาวิทยาลัยในปีล่าสุด
  5. University Prestige – เราวิเคราะห์โดยใช้ความเก่าแก่ของมหาวิทยาลัย นับตั้งแต่ได้รับสถานะเป็นมหาวิทยาลัยอย่างสมบูรณ์
  6. Location – เราวิเคราะห์จากความใกล้ไกลของ main campus / headquarters campus หรือ วิทยาเขตหลัก ห่างจากบริเวณที่เป็นใจกลางเมืองที่ตั้ง
  7. Program Fee – เราวิเคราะห์โดยคำนวณ average annual course fee หรือ ค่าเรียนเฉลี่ยต่อปี จากสาขาที่เปิดสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโทของแต่ละมหาวิทยาลัย

____________________________________________________________________

ช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ

หากท่านเห็นว่า รีวิวมหาวิทยาลัยนี้ดีไหม ของ Uni-review.com น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหาข้อมูลศึกษาต่อต่างประเทศแล้ว  รบกวนช่วยกด LIKE  กด share ให้ด้วยนะคะ ทางเราจะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวมหาวิทยาลัยต่อไป

Facebook: Uni-Review.com มหาวิทยาลัยนี้ดีไหม

Website: www.uni-review.com

Email: unireview.info@gmail.com


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

Be the first to comment

Leave a Reply

Your email address will not be published.


*